วันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ประเภทของเครื่องเรือน


                                                การดุแลเครื่องมือเครื่องใช่ภายในบ้าน



ประเภทของเครื่องเรือน
 เครื่องเรือนเป็นสิ่งของเครื่องใช้ที่ช่วยตกแต่งภายในบ้านให้สวยงาม  เช่น  โต๊ะ  เก้าอี้  ชุดรับแขก  เป็นต้น  ในการทำความสะอาดเครื่องเรือนระวังอย่าให้เกิดรอยขีดข่วน  ดังนั้นในการปัดฝุ่นควรใช้ไม้กวาดขนไก่หรือผ้านุ่ม  และถ้าจะต้องล้างหรือขัดสิ่งสกปรกไม่ควรใช้ฝอยขัด  ดังนั้น  เพื่อให้อายุการใช้งานของเครื่องเรือนได้ยาวนาน  ควรดูแลรักษาให้ถูกวิธีตามลักษณะและชนิดของวัสดุ 
                               
 เครื่องเรือนที่ทำด้วยไม้
                1.  ไม้เนื้อแข็ง       เช่น   ไม้สัก  ไม้เต็ง  ไม้มะค่า  ไม้ประดู่  เป็นต้น  มักนำมาทำเป็นเครื่องเรือน  เช่น  โต๊ะ  เก้าอี้  ชั้นวางของ  ตู้ 
วิธีดูแลรักษา
                                                                               
                                ใช้ไม้กวาดขนไก่ปัดฝุ่นออกให้หมด  ใช้ผ้าฝ้ายหรือผ้าขนหนูที่สะอาดชุบน้ำบิดให้หมาด  เช็ดฝุ่นให้สะอาดทุกซอกทุกมุม  ทิ้งให้แห้ง  หากมีรอยเปื้อนมาก ๆ ขัดออกด้วยกระดาษทราย ทาขี้ผึ้งแล้วขัดด้วยผ้าแห้ง  หรือใช้น้ำยาชักเงาที่ขายสำเร็จรูปฉีดแล้วทิ้งให้แห้ง  ไม่ควรให้เปียกน้ำ
               
                2.  ไม้เนื้ออ่อน      เช่น  ไม้ไผ่  หวาย  มักนำมาทำเป็นเครื่องเรือน  เช่น  โต๊ะ  เก้าอี้  เตียงนอน  ชั้นวางของ
วิธีดูแลรักษา
                    
                                ใช้แปรงหรือไม้กวาดขนไก่ปัดฝุ่นออก  แล้วใช้ผ้าฝ้ายสะอาดชุบน้ำบิดหมาด ๆ เช็ดออก  ทิ้งไว้ให้แห้ง  ควรฉีดยาฆ่าแมลงเพื่อป้องกันมอด  แล้วนำออกตากแดด  ไม่ควรใช้มือเปียกจับเครื่องเรือน  เพราะจะทำให้เกิดรอยด่าง  ถ้ามีรอยเปื้อนมาก ๆ ให้เช็ดด้วยน้ำส้มสายชูผสมน้ำอุ่นให้ทั่ว  แล้วขัดด้วยขี้ผึ้ง
การเก็บรักษา
                                เครื่องเรือนที่ทำจากไม้  เมื่อทำความสะอาดแล้วควรผึ่งให้แห้งสนิทเสียก่อน  แล้วจึงนำมาเก็บหรือตั้งไว้ในที่แห้ง  ไม่ควรเก็บไว้ในที่ที่มีความชื้นสูง  เพราะจะทำให้ขึ้นราได้ง่าย
เครื่องเรือนที่ทำด้วยหนัง
                เครื่องเรือนที่ทำจากหนังมี  2  แบบ  คือ  แบบหนังเรียบธรรมดา  และแบบหนังกลับ  ใช้ทำชุดรับแขก  กระเป๋า  รองเท้า  เข็มขัด  มีวิธีดูแลรักษาตามชนิดของเครื่องหนัง  ดังนี้
                1.  เครื่องหนังธรรมดา       ให้ทำความสะอาดด้วยการใช้แปรงอ่อน ๆ ปัดฝุ่น  หรือสิ่งสกปรกออกให้หมดก่อน  แล้วใช้เศษผ้า  ฟองน้ำ  หรือแปรงขัดหนัง  ขัดให้ทั่ว  ต่อจากนั้นให้เช็ดออกด้วยผ้านุ่ม  ทิ้งไว้ให้แห้งแล้วเก็บเข้าที่
                2.  หนังกลับ         ทำความสะอาดด้วยการปัดฝุ่นละออง โดยใช้แปรงปัดฝุ่นให้ชนลู่ไปทางเดียวกันเพื่อให้สวยงาม  และระวังอย่าให้ถูกความชื้นและความร้อน  เพราะจะทำให้เสียรูปทรง
การเก็บรักษา
                           เมื่อทำความสะอาดแล้วควรเก็บใส่กล่อง  ถุงผ้า  หรือเก็บไว้ในตู้
               
เครื่องเรือนที่ทำด้วยโลหะ
                วัสดุจำพวกโลหะมีคุณสมบัติแข็ง  ขัดเงาขึ้นแวววาว  นำความร้อนได้ดี  ในสมัยโบราณมีการทำเครื่องมือเครื่องใช้โดยใช้เนื้อโลหะบริสุทธิ์  เช่น  เงิน  ทองคำ  ทองแดง  ต่อมามีการพัฒนาเป็นพวกโลหะผสม  ซึ่งทำให้มีความเหมาะสมในการใช้ประโยชน์ยิ่งขึ้น  โลหะที่ทำเครื่องใช้ในบ้านของเรา  มีดังต่อไปนี้
               
                1.  เหล็ก                                เครื่องเรือนเครื่องใช้ที่ทำด้วยเหล็ก  เช่น  มีด  จอบ  เสียม  และอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านอื่น    มีวิธีดูแลรักษา  ดังนี้
·       ใช้งานให้เหมาะสมกับประเภทของเครื่องมือ  เช่น  มีดสำหรับสับเนื้อ  ไม่ควรนำไปฟันไม้  เป็นต้น
·       หลังจากใช้แล้วรีบทำความสะอาดทันที  โดยใช้น้ำสบู่ล้างออกจนสะอาด  หากสกปรกมากให้ใช้ฝอยขัดหรือแปรงขัด  แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด  เช็ดให้แห้ง
·       ควรทาน้ำมันเคลือบเป็นครั้งคราวเพื่อป้องกันสนิม
·       อย่าปล่อยให้เครื่องใช้ที่เป็นเหล็กถูกน้ำนาน ๆ หรือแช่น้ำนาน ๆ เพราะจะทำให้เป็นสนิม  ถ้ามีสนิมขึ้น  ให้ใช้ฝอยขัดสนิมให้หมด  เช็ดให้แห้ง  ใช้น้ำมันทากันสนิม แล้วเก็บเข้าที่
การเก็บรักษา
           เครื่องใช้ที่ทำด้วยเหล็ก  เมื่อทำความสะอาดแล้วควรเก็บใส่ซอง  ปลอก  หรือเก็บไว้ในตู้ที่มิดชิด  ไม่วางไว้ในที่ลมพัดผ่าน  เพราะความชื้นจะทำให้เกิดสนิม
  
2.  เครื่องเงิน             เครื่องเรือนเครื่องใช้ที่ทำด้วยโลหะเงิน  เช่น  ชุดน้ำชา  ขันเงิน  พาน  โดยธรรมชาติของเครื่องเงิน  ถ้าถูกอากาศจะเกิดปฏิกิริยา  ทำให้เครื่องเงินหมองคล้ำ  การดูแลรักษาควรปฏิบัติ  ดังนี้
·       ใช้แล้วเก็บใส่ถุงพลาสติกทันที
·       ล้างด้วยน้ำยาขัดเงินโดยเฉพาะ  หรือน้ำมะนาวผสมสบู่  ขัดให้สะอาด แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
·       ใช้น้ำอุ่นผสมสบู่ล้าง  แล้วขัดให้สะอาด
·       ห้ามใช้ใยขัดโลหะ  หรือฝอยขัดหม้อขัดเครื่องเงิน  เพราะอาจทำให้เป็นรอยขีดข่วน  และสึกหรอได้
การเก็บรักษา
               เครื่องเงินที่นำมาใช้ เมื่อทำความสะอาดแล้วควรเก็บใส่ถุง  ใส่กล่อง  แล้วนำเก็บเข้าตู้ไม่ให้ถูกอากาศ
               
              3.  อะลูมิเนียม          เป็นโลหะชนิดหนึ่งที่มีน้ำหนักเบา  ไม่เป็นสนิม  จัดทำรูปทรงต่าง ๆ ได้ง่าย  มักนำมาทำภาชนะเครื่องใช้  เช่น  หม้อ  กระทะ  ทัพพี  ถาด  ขันน้ำ  มีวิธีดูแลรักษาดังนี้
·       ใช้ฝอยขัดหม้อหรือแผ่นขัด  ขัดให้สะอาด  แล้วล้างด้วยน้ำสบู่อ่อน ๆ ห้ามใช้สารเคมีที่เป็นกรดอย่างเข้มข้นขัด
·       รอยไหม้บนอะลูมิเนียม  ห้ามใช้ไม้หรือเหล็กแคะ  ให้ต้มด้วยน้ำผสมเกลือให้เดือด  รอยไหม้จะกะเทาะออกไปเอง  หรือใช้ฝอยขัดหม้อขัด  แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
การเก็บรักษา
เมื่อทำความสะอาดแล้ว  ใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง  เก็บไว้ในตู้เก็บภาชนะเครื่องใช้
               
            4.  เครื่องแสตนเลส            มีคุณสมบัติพิเศษ  คือ  ทนความร้อนได้ดี  ทนทานต่อความกัดกร่อน  สามารถทำเป็นรูปทรงต่าง ๆ ได้สะดวก  ไม่เป็นสนิม  และดูแลรักษาง่าย  นิยมใช้ทำภาชนะหุงต้ม  ภาชนะในการรับประทานอาหาร  อุปกรณ์ทำความสะอาด  เช่น  อ่างล้างชาม  เป็นต้น
                 วิธีดูแลรักษา        ใช้ฟองน้ำชุบน้ำผสมผงซักฟอก  หรือ  น้ำยาล้างจานขัดถูให้สะอาดคว่ำไว้  แล้วใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง
การเก็บรักษา
           เมื่อทำความสะอาดแล้วเช็ดให้แห้งแล้ว  นำไปเก็บไว้ในตู้เก็บภาชนะเครื่องใช้
เครื่องเรือนที่เป็นแก้วหรือกระจก
เครื่องเรือนเครื่องใช้ในบ้านที่เป็นแก้วหรือกระจก มีมากมายหลายชนิด  เช่น  แก้วน้ำ
รูปทรงต่าง ๆ จาน  ชาม  ถ้วย  ถาด  กระจกเงา  โต๊ะกระจก  แจกัน  โคมไฟแขวนประดับ  เป็นต้น  ซึ่งอาจทำจากแก้วเรียบ ๆ ธรรมดา  หรือมีการแกะสลัก  เจียระไนระบายสีให้เกิดลวดลายที่งดงามก็ได้  เครื่องแก้วเหล่านี้มีคุณสมบัติที่ดี  คือ  ดูแลทำความสะอาดได้ง่าย  แต่มีข้อเสีย  คือ  มีความเปราะบาง  แตกหักง่าย  ดังนั้นจึงต้องรู้จักใช้และระวังรักษาไม่ให้เกิดรอยร้าว  เพื่อให้ใช้งานได้ยาวนาน
  เมื่อล้างเครื่องแก้วสะอาดดีแล้ว  ควรเก็บใส่กล่อง ใช้กระดาษหรือเศษผ้าวางคั่นทีละใบกันกระแทก  ถ้าเป็นแก้วไม่ควรวางซ้อนกัน  จะดึงออกยาก  และทำให้แตกได้
เครื่องเรือนที่ทำด้วยพลาสติก
                        พลาสติก     ในปัจจุบันได้เข้ามามีบทบาทต่อชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น  เพราะพลาสติกมีคุณสมบัติพิเศษหลายประการ  ได้แก่  มีความเหนียว  ทนทาน  แข็งแรง  น้ำหนักเบา  เคลื่อนย้ายได้สะดวก  และสามารถนำไปหลอมกลับมาใช้ใหม่ได้  เครื่องเรือนเครื่องใช้ที่ทำด้วยพลาสติก  เช่น  จาน  ชาม  เก้าอี้  และถุงชนิดต่าง ๆ เป็นต้น
*  สิ่งที่ควรปฏิบัติในการใช้เครื่องใช้พลาสติก *
1.       ควรเลือกเครื่องใช้ที่ทำด้วยพลาสติกใสหรือขาวเพื่อความปลอดภัยจากสีที่
เจือปน
2.       ไม่ควรใช้ภาชนะพลาสติกบรรจุอาหารที่ร้อนจัด  เพราะพลาสติกไม่ทนต่อความ
ร้อน  อาจเกิดการสลายตัวปะปนเข้าไปในอาหาร
3.       ไม่วางเครื่องใช้พลาสติกไว้ใกล้เตาไฟ หรือแหล่งความร้อนอื่น  เพราะจะทำให้
เกิดการหลอมละลายเสียหาย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น